ปั๊มลม Medi Air มีดีอะไรบ้าง??
ปั๊มลม (Air Compressor) ทำหน้าที่ในการอัดลมทำให้เกิดแรงดันที่สูง นำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย สามารถใช้ได้ในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็กไปจนถึงอุตสาหกรรมขนาดกลาง รวมไปถึงวงการแพทย์ งานทันตกรรม งานอู่ซ่อมรถยนต์ เป็นต้น วันนี้ทางบริษัท เมคคานิก้า จำกัด จะมาขอแนะนำปั๊มลมของยี่ห้อ Medi Air เป็นที่ถูกอกถูกใจคุณลูกค้า ขายดีมากๆ เพราะเป็นปั๊มลมแบบลูกสูบ (Oil Free) ทำให้ไม่มีน้ำมันมาเจือปนในงานของเรา นำเข้ามาจากไต้หวัน มีขนาดถังที่ใหญ่ มีเสียงเงียบ โดยมีถังเก็บลมขนาดต่างๆ มีตั้งแต่ 30-70 ลิตร แรงดันสูงสุดอยู่ที่ 6-8 บาร์ สามารถเลือกให้เหมาะสมกับงานที่ต้องการใช้งานได้เลย
จุดเด่นของปั๊มลม Medi Air
-
ชนิด Oil-Free (ไร้น้ำมัน)
ไม่มีน้ำมันปนเปื้อนในระบบลม เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความสะอาด เช่น โรงพยาบาล คลินิกทันตกรรม ห้องแล็บ หรือไลน์ผลิตอาหาร -
คุณภาพการผลิตสูงจากไต้หวัน
ตัวเครื่องผลิตด้วยวัสดุแข็งแรง ทนความร้อน มีระบบตัดต่ออัตโนมัติ และดูแลง่าย -
เสียงเงียบ
ระดับเสียงต่ำ เหมาะกับพื้นที่ปิดหรือสำนักงานที่ต้องการความเงียบ -
ถังเก็บลมขนาดใหญ่
มีตั้งแต่ 30–70 ลิตร รองรับแรงดันสูงสุด 6–8 บาร์ ให้ลมต่อเนื่องสม่ำเสมอ -
มีให้เลือกหลายรุ่น
เช่น Medi Air รุ่น MA7001 และรุ่นระบบ Scroll Pump สำหรับงานที่ต้องการแรงดันสูงกว่า
ส่วนประกอบของปั๊มลม Medi Air

วิธีติดตั้งและการใช้งานปั๊มลม

การติดตั้งปั๊มลม Medi Air ที่ถูกต้องจะช่วยยืดอายุการใช้งาน และคงประสิทธิภาพของแรงดันลมให้ดีที่สุด โดยมีขั้นตอนดังนี้
-
เลือกตำแหน่งติดตั้งที่เหมาะสม
วางเครื่องบนพื้นที่ราบ แข็งแรง และมีการระบายอากาศดี หลีกเลี่ยงบริเวณที่อับชื้นหรือมีฝุ่นมากเกินไป -
เชื่อมต่อระบบท่อลมและฟิตติ้ง
-
ใช้ท่อที่มีขนาดเหมาะสมกับแรงดัน
-
ตรวจสอบจุดรั่วซึมบริเวณข้อต่อก่อนเปิดใช้งาน
-
หากมีการติดตั้งร่วมกับอุปกรณ์อื่น เช่น Air Dryer, Filter หรือ Oil Separator ให้ต่อระบบตามลำดับในแผนผังมาตรฐานของ Medi Air
-
-
ตรวจสอบอุปกรณ์ควบคุมแรงดัน
ตรวจสอบเกจวัดแรงดันและสวิตช์ตัดต่อ (Pressure Switch) ให้ทำงานปกติ -
ทดสอบระบบก่อนใช้งานจริง
เปิดเครื่องและปล่อยให้ปั๊มสร้างแรงดันเต็มถัง สังเกตเสียงการทำงาน และแรงดันตัดต่อว่าทำงานตามสเปก (ปกติอยู่ระหว่าง 6–8 บาร์)
วิธีการปล่อยความชื้นออกจากปั๊มลม

การปล่อยความชื้นออกจากปั๊มลม Medi Air
ควรปล่อยความชื้นออกจากระบบหลังการใช้งานทุกวัน เพื่อป้องกันการเกิดสนิมในถังและช่วยยืดอายุการใช้งาน
-
จุดที่ 1: กดไล่น้ำที่ตัวกรองอากาศ (Filter/Regulator) ประมาณ 1–2 วินาที
-
จุดที่ 2: เปิดวาล์วระบายน้ำใต้ถังลม หมุนออกเล็กน้อยเพื่อให้น้ำและไอน้ำภายในถังออกหมด (ประมาณ 3–4 วินาที)
วิธีการเลือกปั๊มลม มีหลักดังนี้
- การเลือกปั๊มลมที่ต้องดูที่จุดใช้งานว่าต้องการปริมาณลมเท่าไหร่ เราจึงต้องเลือกปริมาณลมต้องมากกว่าจุดใช้งาน 1 : 3 เช่น จุดใช้งานต้องใช้ลม 50 ลิตร เราต้องเลือกปั๊มลม 150 ลิตร คือ เลือก Medi Air รุ่น MA7001 เป็นต้น
- การเลือกปั๊มลมจุดใช้งานต้องต่ำกว่าจุด Start เช่น ถ้าลูกค้าต้องการลมที่ 5 Bar เราสามารถเลือกปั๊มลม แบบลูกสูบได้เลย เนื่องจากว่า การตัดต่อของปั๊มไม่เกิน 8 Bar คือ ตัด 8 ต่อ 6 แต่ถ้าลูกค้าต้องการลมที่ 7 Bar เราก็เลือก ปั๊มลม แบบ Scroll Pump ไปเลย ทางเมคคานิก้า มี Medi Air ระบบ Scroll Pump จำหน่ายนะคะ
หากต้องการหรือขอคำแนะนำเพิ่มเติมสอบถามโดยตรงเข้ามาที่บริษัท เมคคานิก้า จำกัดได้เลย เรามีทีมช่างวิศวกรรมผู้เชี่ยวชาญคอยตอบข้อสงสัยให้อยู่ค่ะ
ปั๊มลม Medi Air เหมาะกับใคร
-
คลินิกทันตกรรม
-
โรงพยาบาล
-
ห้องแล็บ
-
โรงงานบรรจุอาหาร
-
งานประกอบชิ้นส่วนที่ต้องการลมสะอาด
ปั๊มลม Medi Air เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ต้องการปั๊มลมคุณภาพสูง ปลอดภัย และเงียบ เหมาะกับทั้งภาคอุตสาหกรรมและงานแพทย์ หากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม ทีมวิศวกรจาก บริษัท เมคคานิก้า จำกัด (MECHANIKA) พร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำรุ่นที่เหมาะสมกับงานของคุณ
สอบถามรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ บริษัท เมคคานิก้า จำกัด
TEL 02-011-1000 , Hotline 088-008-2305
รับชมสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆอีกมากมายที่ YOUTUBE : MECHANIKA