8 ข้อดีจัดการน้ำในบ่อปลา ด้วย @nywhere

จัดการน้ำในบ่อปลา ด้วย @nywhere

 “@nywhere” อุปกรณ์ที่นำเทคโนโลยี IoT มาใช้ เพื่อจัดการน้ำในบ่อปลา ฟาร์มปลา รวมไปถึงธุรกิจเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถมอนิเตอร์ค่าต่างๆ จากระยะไกล พร้อมระบบแจ้งเตือนความผิดปกติต่างๆ ทำให้ผู้เลี้ยงสามารถตรวจสอบ และแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที

ลดความเสี่ยงต่อความสูญเสีย

ลดค่าใช้จ่าย และเวลาในการดูแล

ออกแบบระบบที่ใช่ เลือก Customize ได้แบบที่ต้องการ ด้วย @nywhere


    1. สามารถตั้งค่าการ เปิด-ปิด เครื่องเติมอากาศล่วงหน้าได้ตามที่ต้องการ และสามารถเปิด-ปิด จากระยะไกลผ่าน Application บนสมาร์ทโฟน
    2. มีเซนเซอร์ตรวจวัดค่าตามที่ต้องการ เช่น ตรวจวัด Oxygen, ตรวจวัดอุณหภูมิน้ำ อุณหภูมิกล่องควบคุมรวมไปถึงสภาพอากาศภายนอก หรือตรวจสอบค่า pH ความเป็นกรด-ด่าง ฯลฯ
    3. ระบบป้องกันความเสียหายของเครื่องเติมอากาศ จากการอุดตันของท่อ หรือหัวจ่ายอากาศ หากหัวจ่ายอุดตัน ระบบ @nywhere จะตัดการทำงาน เพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์เกิดความเสียหาย 
    4. มีฟังก์ชันการบอกสถานะการใช้งานกระแสไฟฟ้าของเครื่องเติมอากาศ และแสดงปริมาณไฟฟ้าเฉลี่ยที่ระบบใช้งานได้ด้วย
    5. มีฟังก์ชันในการนับจำนวนชั่วโมงการทำงานของปั๊ม เพื่อการบำรุงรักษา เปลี่ยนอะไหล่ตามรอบการดูแลรักษา ยืดอายุการใช้งานของเครื่องเติมอากาศ
    6. มีระบบการแจ้งเตือนความผิดปกติแบบ Real Time ผ่าน Application ในมือถือ และ Line Notify
 

 

การนำระบบ IoT (Internet of Things) มาใช้ในการควบคุมเครื่องจักร หรือที่เรียกว่า Industrial IoT (IIoT) มีข้อดีมากมายที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับโรงงานอุตสาหกรรมและธุรกิจต่างๆ โดยมีข้อดีหลักๆ ดังนี้

1. การติดตามและควบคุมระยะไกลแบบ Real-time

เพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน ผู้ดูแลระบบสามารถตรวจสอบสถานะการทำงานของเครื่องจักรได้จากทุกที่ ทุกเวลาผ่านอุปกรณ์สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ไม่จำเป็นต้องเข้าไปที่หน้างานจริง

ตอบสนองต่อปัญหาได้ทันท่วงที เมื่อเกิดความผิดปกติหรือปัญหาขึ้นกับเครื่องจักร ระบบจะส่งการแจ้งเตือนทันที ช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ลดความเสียหายและลดเวลาหยุดทำงานของเครื่องจักร (Downtime)

2. การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ (Predictive Maintenance)

ลดเวลาหยุดชะงักของเครื่องจักร เซ็นเซอร์ IoT จะเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสภาพการทำงานของเครื่องจักร เช่น อุณหภูมิ การสั่นสะเทือน แรงดัน ทำให้สามารถวิเคราะห์แนวโน้มการเสื่อมสภาพและคาดการณ์ได้ว่าเครื่องจักรจะขัดข้องเมื่อใด

วางแผนการซ่อมบำรุงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อทราบแนวโน้มความผิดปกติล่วงหน้า โรงงานสามารถวางแผนการบำรุงรักษาได้ก่อนที่จะเกิดความเสียหายร้ายแรง ลดการซ่อมแซมฉุกเฉินที่ไม่คาดฝัน และช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักร

ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา การซ่อมบำรุงเชิงรุกมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการซ่อมแซมเมื่อเกิดความเสียหายแล้ว

3. เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต (Operational Efficiency)

เพิ่มผลผลิต เครื่องจักรสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ลดความผิดพลาดจากมนุษย์ และเพิ่มปริมาณผลผลิต

ปรับปรุงคุณภาพสินค้า การเก็บข้อมูลและวิเคราะห์สถานะการผลิตแบบเรียลไทม์ช่วยให้สามารถระบุและแก้ไขข้อบกพร่องในกระบวนการผลิตได้ทันที ทำให้สินค้ามีคุณภาพสม่ำเสมอและลดของเสีย

ลดต้นทุนการดำเนินงาน การใช้ IoT ช่วยให้วางแผนการใช้พลังงาน ลดของเสีย และบริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงลดความจำเป็นในการตรวจสอบด้วยคน

4. การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและการตัดสินใจที่ดีขึ้น (Data-Driven Decision-Making)

รวบรวมข้อมูลจำนวนมหาศาล: IoT ช่วยให้สามารถรวบรวมข้อมูลจากเครื่องจักรและกระบวนการผลิตได้ตลอดเวลา

วิเคราะห์และประมวลผลข้อมูล ข้อมูลที่ได้จะถูกนำไปวิเคราะห์เพื่อหาแนวโน้ม ความผิดปกติ และข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์

สนับสนุนการตัดสินใจ ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานสามารถใช้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์และแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น (Enhanced Safety)

ตรวจจับอันตราย เซ็นเซอร์ IoT สามารถตรวจจับสภาพแวดล้อมที่อาจเป็นอันตราย เช่น อุณหภูมิสูงเกินกำหนด ก๊าซรั่วไหล หรือการสั่นสะเทือนผิดปกติ

แจ้งเตือนความผิดปกติ เมื่อพบความผิดปกติ ระบบจะส่งการแจ้งเตือนไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องทันที ช่วยป้องกันอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยให้กับพนักงานและทรัพย์สิน

6. ลดข้อผิดพลาดจากมนุษย์ (Reduced Human Error)

ทำงานอัตโนมัติ การควบคุมเครื่องจักรด้วยระบบ IoT ลดการพึ่งพาการทำงานของมนุษย์ในงานที่ซ้ำซากหรือมีความเสี่ยง ทำให้ลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาดจากปัจจัยบุคคล

7. การจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ (Energy Management)

ตรวจสอบการใช้พลังงาน ระบบ IoT สามารถตรวจสอบและวิเคราะห์การใช้พลังงานของเครื่องจักรแต่ละเครื่อง ทำให้สามารถระบุจุดที่สิ้นเปลืองพลังงานและปรับปรุงให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ลดค่าไฟฟ้า การจัดการพลังงานที่ดีขึ้นนำไปสู่การลดต้นทุนด้านพลังงาน

8. การจัดการห่วงโซ่อุปทานและสินค้าคงคลัง (Supply Chain and Inventory Management)

ติดตามสินค้าแบบเรียลไทม์ สามารถติดตามตำแหน่งและสถานะของสินค้าหรือวัตถุดิบตลอดห่วงโซ่อุปทาน

 

เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้า: ช่วยในการบริหารจัดการสต็อกสินค้าให้มีความแม่นยำ ลดปัญหาของขาดหรือของเกิน

วันนี้ทุกคนก็คงได้ทราบกันแล้วว่า @nywhere นั้น สามารถมอนิเตอร์ค่าต่างๆ จากระยะไกล และออกแบบมาเพื่อจัดการน้ำในบ่อปลา ฟาร์มปลา ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หากใครที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท เมคคานิก้า จำกัด ของเราได้เลย นอกจากแอร์ปั๊มที่ใช้ในการเติมอากาศแล้ว ยังมี ปั๊มสุญญากาศ, ปั๊มน้ำสำหรับน้ำดี, ปั้มสำหรับน้ำเสีย, ปั๊มสารเคมี และเครื่องจักรอุตสาหกรรมต่างๆอีกหลากหลาย หากคุณลูกค้าท่านใดต้องการคำแนะนำหรืออยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ทีมวิศวกรฝ่ายขายของบริษัท เมคคานิก้า ยินดีให้คำแนะนำ และสามารถนัดหมายเพื่อเข้าประเมินหน้างานได้เลยค่ะ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

 

สอบถามรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ บริษัท เมคคานิก้า จำกัด

TEL 02-011-1000 , Hotline 088-008-2305

รับชมสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆอีกมากมายที่ YOUTUBE : MECHANIKA

สนใจสินค้าหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

บทความอื่นๆ